รู้ได้อย่างไรว่าข่าวเป็นบวกหรือลบในการเทรดด้วย Forex Factory

ในการเป็นเทรดเดอร์นั้นการติดตามข่าวสารต่าง ๆ จะทำให้ได้เปรียบในการเทรดอย่างมาก เพราะว่าข่าวจะทำให้เข้าใจในเชิงของผลกระทบโดยตรงที่เกิดขึ้นกับข่าว และการที่เข้าใจในเรื่องข่าวจะทำให้ช่วยเซฟเงินในบัญชี ยกตัวอย่างเช่น เรารู้ว่าช่วงทุ่มครึ่งวันนี้มีข่าวแล้วเรามีออเดอร์ค้างไว้ แล้วเราอาจจะกำลังไม่มั่นใจว่าสิ่งที่คาดการณ์ไว้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ เราก็สามารถทำการปิดออเดอร์นั้นไปได้เลยโดยที่ไม่ต้องรอชมข่าวตอนทุ่มครึ่งนั่นเอง นี่ก็คือการช่วยให้เซฟเงินในบัญชีของเรา แต่หากเราไม่รู้ว่าทุ่มครึ่งนี้จะมีข่าวและเปิดออเดอร์ทิ้งไว้และกำลังกำไรอยู่กลายเป็นตกลงมาเป็น Stop Loss แบบนี้ก็สามารถเกิดขึ้นได้ ดังนั้นการติดตามข่าวจึงเป็นสิ่งที่สำคัญในการเทรดเป็นอย่างมาก

ซึ่งในปัจจุบันมีหลากหลายเว็บไซต์ที่มีไว้ให้สำหรับเทรดเดอร์ได้ติดตามข่าว แต่มีเว็บไซต์ที่เป็นตำนานและยังได้รับความนิยมอยู่ก็คือเว็บไซต์ Forex Factory เนื่องจากเป็นเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน และยังมีดีไซน์ที่ดูแล้วเฟรนลี่เข้าใจง่ายมาก ๆ

หากดูจากหน้าตาของเว็บไซต์แล้วจะเห็นได้เลยว่า Timeline เนี่ยตรงไปตรงมาเลย มีเวลาที่ข่าวออก มี currency ก็คือค่าเกิดที่ผลกระทบ และมี Impact (ซึ่งจะมีหลายสี) รวมถึงมีตัวเลขที่เกิดขึ้น ตัวเลขที่คาดการณ์ ตัวเลขก่อนหน้านี้และกราฟ ซึ่งทำให้เทรดเดอร์ได้เห็นภาพรวมทั้งหมดในวันนั้นว่าโครงสร้างข่าวมีอะไรบ้าง ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งเว็บไซต์ที่มีประโยชน์อย่างมากในการเทรดฟอเร็กซ์หรือการเทรดทอง

ผลกระทบและความรุนแรงของข่าวที่ส่งผลต่อราคาค่าเงิน (Impact)

อันดับแรกให้เข้าไปที่เว็บไซต์ forexfactory.com และเข้าไปตั้งค่าเวลาให้เป็นปัจจุบันตามรูปด้านล่างนี้ก่อน

หลังจากนั้นจะเห็นได้จากตารางข่าวที่จะมีบอกเหตุการณ์ ณ ตอนนั้นมีอะไรเกิดขึ้น เป็นเวลาเท่าไหร่ และข่าวที่กำลังจะมาถึงเป็นข่าวอะไร ตามรูปด้านล่างนี้เลย

ขั้นตอนต่อไปให้ดูในส่วนของ Impact ของค่าเงินต่าง ๆ เช่น USD, EUR, AUD เป็นต้น ก็ดูคู่สกุลเงินที่เลือกเทรด หรือสำหรับผู้ที่กำลังเทรดทองก็สามารถดูข่าวสกุลเงิน USD ได้เลย เพราะดอลล่าร์สหรัฐก็จะเกี่ยวข้องกับทองโดยตรง คราวนี้เมื่อเข้าในภาพรวมแล้วก็มาดูผลกระทบที่แตกต่างกันโดยดูจากกล่อง Impact ที่มีอยู่สี่สีด้วยกัน ได้แก่

กล่อง Impact สีเทา : ผลกระทบน้อยมาก

บ่งบอกว่าธนาคารเหล่านั้นจะมีการปิด เช่น USD เป็นสีเทา หมายความว่าเป็นวันหยุดของฝั่งสหรัฐอเมริกา ดังนั้นในวันนั้นคู่เงินไหนที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงิน USD ก็จะนิ่งเลยทีเดียว ส่วนใหญ่ก็จะมีการเคลื่อนที่ในกรอบ Side way สั้น ๆ ยกเว้นหากคู่เงินที่เทรดระหว่างกัน เช่น EUR/USD และ EUR เป็นกล่องสีแดงขึ้นมา ก็อาจจะทำให้คู่เงินนั้นมีความผันผวนขึ้นมาได้เช่นเดียวกัน ยกเว้นเทรดเดอร์คนนั้นไม่ได้สนใจสีอื่น ๆ มากนัก

กล่อง Impact สีเหลือง : ผลกระทบค่อนข้างน้อย

บ่งบอกว่าเป็นข่าวที่ไม่ได้ส่งผลกระทบรุนแรงกับกราฟราคา ซึ่งเทรดเดอร์ส่วนใหญ่มักไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก

กล่อง Impact สีส้ม : ค่อนข้างส่งผลกระทบ

กล่อง Impact สีส้ม ทำให้เทรดเดอร์ส่วนใหญ่เริ่มให้ความสนใจแล้ว โดยบ่งบอกถึงความผันผวนของราคาโดยทั่วไป แต่ไม่ได้มีความรุนแรงมากนัก

กล่อง Impact สีแดง : ส่งผลกระทบรุนแรง

บ่งบอกว่าถ้าหากมีข่าวนี้เกิดขึ้นเทรดเดอร์เตรียมตัวรัดเข็มขัดได้เลย เพราะหากว่าตรงกับช่วงเวลาที่มีข่าวเกิดขึ้น ตัวโฟลเดอร์กล่องสีแดงจะส่งผลรุนแรงต่อกราฟราคามาก ดังนั้นเทรดเดอร์ควรระวังสีแดงเอาไว้ ในช่วงที่เกิดข่าวไม่มีใครสามารถการันตีได้ว่าราคาจะปรับตัวไปในทิศทางใด และบางทีราคานั้นก็อาจจะปรับตัวขึ้นและก็ปรับตัวลงด้วย เรียกได้ว่าทำไส้ทั้งบนทั้งล่างเลย หากเทรดเดอร์มีทั้ง Stop Loss และ Take Profit ก็มีโอกาสสูงที่จะโดน Stop Loss ไม่ไป Take Profit ดังนั้นช่วงที่มีข่าวหากเทรดเดอร์ไม่มั่นใจจริง ๆ ก็ควรเคลียร์ออเดอร์ก่อนข่าวเกิดขึ้น อย่าเอาไว้ไปเคลียร์ตอนมีข่าว

เพราะในเวลานั้นอาจมีหลายปัญหา เช่น สเปรดถ่าง ปิดออเดอร์ไม่ได้ โดยเหตุผลนี้มีโบรกเกอร์ได้อธิบายไว้ว่าสาเหตุที่ไม่สามารถทำธุรกรรมในช่วงเวลานั้นได้เพราะมีคำสั่งเข้ามาเยอะแบบความถี่เป็นเสี้ยววินาที นึกภาพตอนกดซื้อบัตรคอนเสิร์ตศิลปินระดับโลก เรียกได้ว่าโอกาสน้อยมากที่จะได้ เพราะระบบนั้นรับข้อมูลได้ไม่หมดในเวลาเดียวกัน ก็เลยทำให้มีหลาย ๆ คนไม่สามารถที่จะส่งคำสั่งไปได้นั่นเอง หรืออีกความเสี่ยงนึงที่อาจจะเกิดขึ้นนั่นก็คือการเกิด Slippage คือการที่เราตั้งราคาไว้แต่ราคานั้นมันไม่เกิดขึ้น ก็เลยทำให้ราคาที่เทรดเดอร์อยากปิดออเดอร์นั้นอาจจะไม่ใช่ราคาอย่างที่ต้องการ เช่น ตั้ง Stop Loss ราคาทองคำไว้ที่ 1,940 แต่ปรากฎว่าออเดอร์ของเราโดน Stop Loss ที่ 1,935 ซึ่งนั่นลงมาเยอะเลย พอปิดออเดอร์ทำให้การขาดทุนนอกเหนือจากการควบคุมของเรา

การที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้เพราะว่าในช่วงที่มีข่าวนั้น ราคาไม่ได้วิ่งแบบ 1 2 3 4 5 อะไรแบบนี้ แต่จะวิ่งแบบผันผวนมาก เช่น 1 2 ไป 5 ไม่ได้เคลื่อนที่แบบเรียง ราคาสร้างช่องว่างเกิดขึ้นจาก 1,940 ก็กระโดดไปที่ 1,935 ได้ในทันที อย่างนี้ก็เลยทำให้เกิดการ Slippage เทรดเดอร์ตั้ง Stop Loss แต่ไม่ได้ราคาที่ตั้งเอาไว้ เพราะราคานั้นไม่มี ใกล้เคียงที่สุดคือ 1,935 ก็เลยทำให้ออเดอร์นั้นไปปิดที่ราคาที่ใกล้เคียงที่สุดนั่นเอง นี่จึงเป็นความเสี่ยงเบื้องต้นหากเทรดชนข่าวสีแดง

วิเคราะห์แนวโน้มด้วย Forecast และ Previous

Forecast

ตัวเลขที่สถาบันการเงินคาดการณ์ เช่น หากค่าเงิน USD แข็งตัวขึ้นนั่นบ่งบอกว่าคู่เงินใดมี USD ข้างหลังรวมถึงทองคำ ก็จะมีการปรับตัวลดลง กราฟราคาก็จะร่วงลง แต่หากคู่เงินใดมี USD อยู่ข้างหน้าก็บ่งบอกว่าจะมีการปรับตัวสูงขึ้น และในทางกลับกับหากค่าเงิน USD มีการอ่อนตัวลง คู่เงินใดมี USD อยู่ข้างหน้าก็จะมีการปรับตัวลดลง แต่หากคู่เงินใดมี USD ข้างหลังรวมถึงทองคำ ก็จะมีการปรับตัวสูงขึ้นนั่นเอง

แต่ในความเป็นจริงตัวเลขนี้จะเป็นตัวเลขที่คาดการณ์เท่านั้น ส่วนใหญ่ในช่วงที่ข่าวออกประมาณ 1-2 ชั่วโมง ราคาก็จะวิ่งไปตามที่สถาบันการเงินคาดการณ์ เช่น บอกว่าดอลล่าร์จะมีการแข็งตัวขึ้น ก่อนข่าวออก 1-2 ชั่วโมง ราคาทองคำก็จะร่วงลง เหตุการณ์แบบนี้เรียกว่า “ราคาลงมารอข่าว”

แต่หากว่า Actual หรือตัวเลขจริง ๆ ออกมาว่าดอลล่าร์อ่อนตัวลง แบบนี้จะเจอกับความผันผวนมาก ราคาจะเด้งขึ้นสูงมาก แต่หากตัวเลขจริงออกมาเท่ากับตัวเลขที่คาดการณ์ ส่วนใหญ่แล้วราคาก็มักจะไม่วิ่งไปไหน แต่หากตัวเลขที่คาดการณ์กับตัวเลขที่ออกมาไม่ตรงกันก็จะต้องเจอกับความผันผวนมากนั่นเอง

Previous

ตัวเลขรอบที่แล้ว

โดยส่วนใหญ่แล้วเทรดเดอร์ในตลาด Forex ก็จะดูอยู่สองค่าด้วยกันคือ “ค่าที่เกิดขึ้นก่อนหน้า” และ “ค่าที่คาดการณ์” ก็จะนำตัวเลขสองค่านี้มาทำการวิเคราะห์ สิ่งที่เทรดเดอร์ควรสนใจคือถ้าต้องการเทรดก่อนข่าวออกก็ให้เทรดตามตัวเลขที่คาดการณ์ และเมื่อข่าวออกแล้วมารีเฟรชดูแล้วปรากฎว่าตัวเลขไม่ตรงกับที่คาดการณ์ ก็ต้องมาคัดออเดอร์และทำการวิเคราะห์ใหม่ว่าตัวเลขที่ออกมาจริงกับตัวเลขที่คาดการณ์นั้นเป็นไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่ หากไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกันก็ทำการสวนได้เลย

วิเคราะห์ที่ Detail

เมื่อข่าวออกมาแล้ว สามารถทำการกดโฟลเดอร์ในแท็บ Detail ได้เลย

ใช้เพื่อตรวจสอบรายละเอียดได้เลย ส่วนนี้จะทำให้การวิเคราะห์ข่าวของเทรดเดอร์แม่นยำมากยิ่งขึ้น ทำให้เห็นรายละเอียดได้ว่าทิศทางของการปรับลดอัตราดอกเบี้ย หรือว่าทิศทางของข่าวตัวเลขเศษฐกิจที่เกิดขึ้นนั้นเป็นอย่างไร ซึ่งสามารถที่จะนำไปประเมินกับการเทรดได้

บทสรุป

การเทรดตามข่าวจาก Forex Factory นั้นทำให้ได้เห็นแนวโน้มหลัก เช่น หากมีการบอกว่าดอลล่าร์จะมีการแข็งตัว ทองคำก็จะมีการปรับตัวลง หากเทรดตามข่าวก็จะทำให้เห็นภาพรวมแนวโน้มเบื้องต้นว่าสองสามวันข้างหน้าเทรนด์หลักก็เป็นไปตามทิศทางตัวเลขที่ประกาศออกมา แต่หลัก ๆ ก็คงต้องควรโฟกัสไปที่กล่องสีแดง หากเป็นกล่องส้มหรือกล่องเหลืองบางที่ก็ไม่ได้มี Impact มากพอ ก็อาจจะทำให้กราฟราคาไม่ได้เป็นไปตามที่คาดการณ์สักเท่าไหร่

Source : FOREX FACTORY

สนใจคอร์สเรียน สัมมนาฟรี และข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อเราได้ที่
Facebook: Bravo Trade Academy Global
YouTube: Bravo Trade Academy
Line@: BravoTradeAcademy
Instagram: Bravotradeacademy
TikTok: @bravo_tradeacademy
Twitter: Toeybravo
Website: www.bravotradeacademy.com