ตลาดฟอเร็กซ์มีจำนวนเงินที่หอมหวานลอยอยู่ในอากาศเพื่อเย้ายวนเทรดเดอร์ในการทำกำไรจากตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลกนี้ อย่างไรก็ตามการเทรดฟอเร็กซ์เป็น money game ที่มีความเสี่ยงสูงมากเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้เริ่มต้นหรือเทรดเดอร์มือใหม่ที่อาจเสี่ยงต่อความผิดพลาดในการเทรด
ในบทความนี้ เราจะมาดูกันว่าข้อผิดพลาดในการเทรดฟอเร็กซ์ที่พบบ่อยที่สุด 5 ข้อ ที่ผู้เริ่มต้นควรหลีกเลี่ยง เพราะเมื่อเข้าใจข้อผิดพลาดเหล่านี้และวิธีหลีกเลี่ยงนั้น เทรดเดอร์มือใหม่สามารถเพิ่มโอกาสในการ win trade และลดความเสี่ยงให้เหลือน้อยที่สุด
ตั้งแต่การ over trade ไปจนถึงการไม่สนใจในการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน เราจะรวมข้อผิดพลาดที่สำคัญที่อาจนำไปสู่การขาดทุน และเสนอเคล็ดลับที่ใช้ได้จริงเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้ ไม่ว่าคุณจะเป็นเทรดเดอร์มือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นหรือเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ที่ต้องการปรับแต่งกลยุทธ์ของคุณก็ยังสามารถเรียนรู้อีกได้ บทความนี้จะให้ข้อมูลและคำแนะนำอันมีค่าเพื่อช่วยให้คุณได้เปิดหูเปิดตาในตลาดการเทรดฟอเร็กซ์

1. การเทรดมากเกินไป
นี่เป็นข้อผิดพลาดทั่วไปที่มือใหม่ทำการเทรดมากเกินไปโดยไม่มีกลยุทธ์ที่เหมาะสม ซึ่งมักเกิดจากความกลัวที่จะพลาดกำไรก้อนโต
ความสำคัญของการเทรดให้น้อยลงและโฟกัสไปที่การเทรดที่มีคุณภาพเพื่อให้ได้ผลกำไรที่สม่ำเสมอในตลาดฟอเร็กซ์ โดยเขาให้เหตุผลว่าเทรดเดอร์จำนวนมากมักจะชอบความตื่นเต้นของการเทรด ซึ่งอาจนำไปสู่การเทรดมากเกินไปและส่งผลให้เกิดการขาดทุนในที่สุด
เราขอแนะนำวิธีการเพิ่มวินัยในการเทรดให้มากขึ้น โฟกัสไปที่การวางแผนการเทรดที่มีความเป็นไปได้สูงและอดทนพอที่จะรอให้กำไร เทรดเดอร์ควรเข้าสู่การเทรดที่ตรงตามแผนที่วางเอาไว้ล่วงหน้าและมีอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่ชัดเจน
เพื่อช่วยให้เทรดเดอร์วางแผนการเทรดที่มีคุณภาพ ให้ใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อระบุแนวโน้ม ระดับแนวรับและแนวต้าน และรูปแบบกราฟย้ำว่าสิ่งสำคัญคือการบริหารความเสี่ยง รวมถึงการกำหนดคำสั่งหยุดการขาดทุน (Stop Loss) เพื่อจำกัดการขาดทุนให้อยู่ในจำนวนที่คุณรับไหว
สุดท้ายการมีแผนการเทรดและยึดมั่นในแผนนั้น เพราะมันบ่งบอกว่าคุณมีเป้าหมาย มีการกำหนดความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และมีกลยุทธ์ที่ชัดเจนสำหรับการเข้าและออกจากการเทรดนั่นเอง

2. ไม่ใช้คำสั่ง Stop Loss
คำสั่ง Stop-loss เป็นเครื่องมือการจัดการความเสี่ยงที่สำคัญซึ่งช่วยจำกัดการขาดทุนในให้อยู่ในจุดที่คุณรับไหว เทรดเดอร์มือใหม่มักมองข้ามขั้นตอนสำคัญนี้ ซึ่งนำไปสู่การขาดทุนจำนวนมาก Stop-loss จะปิดตำแหน่งที่เปิดโดยอัตโนมัติเมื่ออัตราแลกเปลี่ยนเคลื่อนลงไปยังระดับที่ระบุในคำสั่ง เหมือนกับคำสั่ง Take-profit ที่ปิดการซื้อขายเมื่อได้กำไรที่กำหนดไว้ล่วงหน้า สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าคำสั่งหยุดการขาดทุนสามารถจำกัดการขาดทุนได้เท่านั้น ไม่สามารถป้องกันการขาดทุนในตลาดที่มีการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วได้
จุดที่เหมาะสมที่สุดในการตั้งค่า stop-loss คือจุดที่มีการป้องกัน ตัวอย่างเช่น สถานะ Long ในแนวโน้มขาขึ้นอาจมีจุดหยุดที่ต่ำกว่า Swing-Low ล่าสุด เนื่องจากการเคลื่อนไหวที่ต่ำกว่าระดับนี้จะทำให้สมมติฐานของลำดับ High-highs และ Higher-lows ไม่ถูกต้อง นอกจากนี้ยังสามารถกำหนดจุดหยุดการขาดทุนที่จุดราคาหลักโดยอิงจากแนวรับ/แนวต้าน จุดกลับตัว หรือระดับ Fibonacci
BRAVO TRADE ACADEMY มีคอร์สการใช้ Fibonacci ให้สำหรับผู้ที่สนใจ
เมื่อตั้งค่าแล้ว เป็นแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดคือจะไม่ยกเลิกคำสั่งหยุดการขาดทุนออกจากแผนการเทรด อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์เข้าข้างคุณและการเคลื่อนไหวของราคาบ่งชี้ถึงความน่าจะกำไร คุณอาจเปลี่ยนคำสั่งไปยังระดับใหม่ได้ เทรดเดอร์บางคนไม่ต้องการป้อนคำสั่งหยุดการขาดทุนเพื่อดำเนินการด้วยตนเองแทน แต่ถ้าแบบนี้คุณจำเป็นต้องจ้องกราฟอย่างต่อเนื่องและมีวินัยในตนเองอย่างมาก ข้อแนะนำที่ดีที่สุดโดยทั่วไปควรใช้คำสั่งหยุดการขาดทุนอัตโนมัติเมื่อมีการตั้งค่าการเทรด

3. ไม่รู้จักเทรนด์ดีพอ
เป็นเรื่องง่ายสำหรับมือใหม่ที่จะติดตามความเคลื่อนไหวของเทรนด์และเริ่มเทรดตามโมเมนตัมเพียงอย่างเดียว อย่างไรก็ตาม นี่อาจเป็นข้อผิดพลาดเนื่องจากแนวโน้มสามารถสวนทางได้ตลอดเวลา
การเทรดตามเทรนด์ในตลาดฟอเร็กซ์สามารถเป็นกลยุทธ์ที่ทำกำไรให้กับเทรดเดอร์ เมื่อเข้าใจทิศทางของแนวโน้มและเข้าสู่การเทรดในทิศทางที่ถูกต้อง เทรดเดอร์มีโอกาสได้รับผลกำไรจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม การไล่ตามเทรนด์ก็เป็นอะไรที่ท้าทายมากเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับมือใหม่ที่อาจไม่เข้าใจการผันผวนของตลาดอย่างชัดเจน มีแนวทางที่ผู้เริ่มต้นเทรดสามารถนำไปใช้เพื่อให้แผนของคุณมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
การทำความเข้าใจเทรนด์
ในการเข้าใจเทรนด์ในตลาดฟอเร็กซ์อย่างมีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องเข้าใจแนวโน้ม 3 ประเภท ได้แก่ แนวโน้มขาขึ้น แนวโน้มขาลง และแนวโน้มด้านข้าง นอกจากนี้ ยังต้องคำนึงถึงเครื่องมือและเทคนิคที่ใช้ในการวิเคราะห์แนวโน้ม เช่น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ เส้นแนวโน้ม และรูปแบบแผนภูมิ
การระบุแนวโน้มในฟอเร็กซ์
เมื่อคุณเข้าใจพื้นฐานของการวิเคราะห์แนวโน้มแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการระบุแนวโน้มในตลาดฟอเร็กซ์ ซึ่งนั่นหมายถึงกรอบเวลาต่าง ๆ ที่ใช้ในการวิเคราะห์แนวโน้ม รวมถึงแนวโน้มระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว นอกจากนี้ ต้องให้ความสำคัญในการระบุแนวรับและแนวต้านเพื่อยืนยันทิศทางของแนวโน้ม
การเทรดฟอเร็กซ์ตามเทรนด์
เมื่อคุณระบุแนวโน้มได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการพัฒนากลยุทธ์การเทรด นั่นคือกลยุทธ์การเทรดต่าง ๆ ที่ทำงานได้ดีกับการวิเคราะห์เทรนด์ ซึ่งรวมถึงการติดตามเทรนด์ การเทรดสวนทางกับเทรนด์ และการเทรดฝ่าวงล้อม นอกจากนี้ ยังต้องคำนึงถึงวิธีการใช้เทคนิคการจัดการความเสี่ยง เช่น คำสั่งหยุดการขาดทุนเพื่อลดการขาดทุนและทำกำไรให้ได้สูงที่สุด
เทคนิคการเทรดขั้นสูง
สำหรับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ที่ต้องการยกระดับการเทรดตามเทรนด์ เราจะพูดถึงเทคนิคขั้นสูง เช่น การเทรดหลายกรอบเวลา (ระยะสั้น ระยะยาว) การใช้ตัวบ่งชี้โมเมนตัม และรวมการวิเคราะห์พื้นฐานเข้ากับกลยุทธ์การเทรดของคุณ นอกจากนี้ ต้องให้ความสำคัญในการปรับกลยุทธ์การเทรดของคุณให้เข้ากับสถานการณ์ของตลาดที่เปลี่ยนแปลง และวิธีหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดทั่วไปที่อาจทำให้การเทรดตามเทรนด์ของคุณขาดทุนได้
BRAVO TRADE ACADEMY มีคอร์สสูตรลับ สับปลายไส้ Price’s Momentum ให้กับผู้ที่สนใจ

4. ไม่สนใจปัจจัยพื้นฐาน
เทรดเดอร์มือใหม่อาจจะโฟกัสไปที่การวิเคราะห์ทางเทคนิคเพียงอย่างเดียวและไม่สนใจปัจจัยพื้นฐาน เช่น ข่าวเศรษฐกิจและเหตุการณ์ต่าง ๆ นี่ก็อาจเป็นข้อผิดพลาดเนื่องจากปัจจัยพื้นฐานมีผลกระทบอย่างมากต่อตลาด เรามารู้กันดีกว่าว่าเทรดเดอร์ควรมีแนวคิดอย่างไรเกี่ยวกับปัจจัยพื้นฐานบ้าง
การทำความเข้าใจเกี่ยวกับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน
การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์ปัจจัยทางเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมที่ส่งผลกระทบต่อราคาของสกุลเงิน สิ่งเหล่านั้นหมายถึงตัวบ่งชี้พื้นฐานสำคัญที่เทรดเดอร์ควรให้ความสนใจ เช่น อัตราดอกเบี้ย อัตราเงินเฟ้อ และ GDP นอกจากนี้ ควรเข้าใจว่าเหตุการณ์ข่าวสารต่าง ๆ ส่งผลต่อค่าสกุลเงินอย่างไร รวมถึงวิธีการตีความการเผยแพร่ข้อมูลทางเศรษฐกิจ
เมื่อละเลยปัจจัยพื้นฐานคุณอาจทำพลาด
หากละเลยการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน เทรดเดอร์อาจพลาดการทำกำไร และอาจเดินเกมแบบผิด ๆ เช่น การเทรดระหว่างการประกาศข่าวสำคัญ การไม่เข้าใจผลกระทบของข้อมูลทางเศรษฐกิจต่อค่าสกุลเงิน และการเพิกเฉยต่อเหตุการณ์ทางการเมืองทั่วโลก สิ่งเหล่านี้อาจนำไปสู่การขาดทุน
การรวมการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเข้ากับการวิเคราะห์ทางเทคนิค
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เทรดเดอร์ควรใช้การผสมผสานระหว่างการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและทางเทคนิค เพื่อพัฒนากลยุทธ์ในการเทรดให้ครอบคลุม ความเป็นไปได้สูงในการทำกำไรในที่สุด

5. ไม่มีแผนการเทรด
เทรดเดอร์มือใหม่จำนวนมากเริ่มเทรดโดยไม่มีแผนที่ชัดเจน สิ่งนี้สามารถนำไปสู่การขาดวินัยและการตัดสินใจด้วยอารมณ์ซึ่งอาจแลกมาด้วยความผิดพลาดราคาแพง แผนการเทรดเป็นเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับนักเทรดฟอเร็กซ์ เนื่องจากช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มผลกำไรสูงสุด มารู้ถึงความสำคัญของการมีแผนการเทรด ที่จะช่วยให้เทรดเดอร์บรรลุเป้าหมายได้
“แผนการเทรด” คืออะไร?
แผนการเทรดฟอเร็กซ์คือชุดแนวทางและกฎที่เทรดเดอร์ปฏิบัติตามเมื่อดำเนินการเทรดในตลาดฟอเร็กซ์ ซึ่งรวมถึงจุดเข้าและออก กลยุทธ์การจัดการความเสี่ยง และเป้าหมายของกำไร
ประโยชน์ของการมีแผนการเทรด
การมีแผนการเทรดมีประโยชน์มากมายสำหรับนักเทรดฟอเร็กซ์ เพราะจะช่วยลดความเสี่ยงในการขาดทุน เพิ่มความสม่ำเสมอในการทำกำไร และปรับปรุงประสิทธิภาพการเทรดโดยรวม นอกจากนี้ เแผนการเทรดสามารถช่วยให้เทรดเดอร์มีระเบียบวินัยและจดจ่อกับเป้าหมายได้เป็นอย่างดี
การพัฒนาแผนการเทรด
การพัฒนาแผนการเทรดอาจเป็นเรื่องที่สำหรับมือใหม่นั้นต้องหมั่นขยันทำการบ้าน แต่มันเป็นขั้นตอนสำคัญในการเป็นเทรดเดอร์ฟอเร็กซ์ที่จะประสบความสำเร็จ คุณต้องรู้จริงและเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวข้องกับข้อผิดพลาดในแต่ละจุดที่เกิดขึ้นเพื่อนำไปพัฒนาแผนการเทรด รวมถึงการระบุเป้าหมายการเทรด การกำหนดความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และการกำหนดจุดเข้าและออก นอกจากนี้ยังต้องศึกษาวิธีการรวมกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงเข้ากับแผนการเทรด
การปรับปรุงและปรับเปลี่ยนแผนการเทรด
แผนการเทรดไม่ใช่สูตรตายตัว และเทรดเดอร์ต้องคำนึงที่จะปรับเปลี่ยนและแก้ไขเมื่อสถานการณ์ตลาดเปลี่ยนแปลง เทรดเดอร์จำเป็นต้องเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการปรับแผนการเทรดเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงในตลาดและการเปลี่ยนแปลงในเป้าหมายของเทรดเดอร์ และการยอมรับความเสี่ยง นอกจากนี้ควรให้ความสำคัญในการหมั่นทบทวนและประเมินแผนการเทรดอย่างสม่ำเสมอเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง
สรุปทั้งหมด
ใครก็ตามที่ยังใหม่กับการเทรดฟอเร็กซ์ คุณต้องหมั่นเรียนรู้วิธีหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดทั่วไปที่อาจนำไปสู่การขาดทุน ซึ่งส่วนใหญ่นั่นก็คือ การเทรดมากเกินไป การไม่ใช้คำสั่งหยุดการขาดทุน การไม่เข้าใจเทรนด์ การเพิกเฉยต่อปัจจัยพื้นฐาน และการไม่มีแผนการเทรด โดยอาจใช้วิธีการจดโน๊ตความผิดพลาดต่าง ๆ และทบทวนกับตัวเองหรือโค้ชของคุณอยู่เสมอ เชื่อได้เลยว่าคุณก็สามารถที่จะประสบความสำเร็จในตลาดนี้ได้เช่นกัน
Source : AXIORY, OANDA, LearnToTradeTheMarket
สนใจคอร์สเรียน สัมมนาฟรี และข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อเราได้ที่
Facebook: Bravo Trade Academy Global
YouTube: Bravo Trade Academy
Line@: BravoTradeAcademy
Instagram: Bravotradeacademy
TikTok: @bravo_tradeacademy
Twitter: Toeybravo
Website: www.bravotradeacademy.com